กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
งานทันตสาธารณสุข ศูนย์อนามัยที่ 11 ร่วมกับผู้นิเทศงานตรวจราชการจากศูนย์ควบคุมโรคที่ 11 กรมควบคุมโรค ศูนย์สุขภาพจิตที่ 11 กรมสุขภาพจิต กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบริหารสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตรวจราชการและนิเทศงานในโครงการเกี่ยวกับพระราชวงศ์ หัวข้อโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ของจังหวัดรนอง ในวันที่ 11 สิงหาคม 2564 โดยมีผู้รับผิดชอบงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ของจังหวัดระนอง ร่วมรับการนิเทศ ผ่านระบบ VDO Conference โปรแกรม Microsoft Teams
โดย มีประเด็นการตรวจราชการ ใน 4 ประเด็นหลัก คือ
1. การพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำ (กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และกองบริหารการสาธารณสุข สป.)
2. การบริการสุขภาพช่องปาก (กรมอนามัย)
3. การบริการสุขภาพจิต (กรมสุขภาพจิต)
4. การป้องกันและควบคุมโรค (กรมควบคุมโรค)
เครือข่ายโรงพยาบาลระนอง ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระนอง มีแผนออกให้บริการทันตกรรมในเรือนจำเดือนละ 1 ครั้ง โดยในปีงบประมาณ 2564 ได้ออกให้บริการทันตกรรม แล้ว 7 ครั้ง มีผู้ต้องขังได้รับบริการตรวจคัดกรอง 1,991 ราย ถอนฟัน 121 ราย/152 ซี่ และ ส่งต่อเพื่อไปรับบริการที่โรงพยาบาลพังงา 19 ราย แต่งดให้บริการ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 เนื่องจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid -19
ในมิติของการส่งเสริมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระนอง มีการบูรณาการแผนในการจัดการอบรม มีการอบรมให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพช่องปาก และฝึกทักษะการแปรงฟัน ให้กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ (อสรจ.) รวมทั้งสนับสนุนยาสีฟัน /แปรงสีฟันให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาให้ อาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ เป็นแกนนำในการดูแลสุขภาพช่องปากแก่ผู้ต้องขังอื่นๆในเรือนำอีกด้วย
ในภาพรวม จังหวัดระนอง มีแผนและทำงานทั้งงานบริการและการส่งเสริมสุขภาพควบคู่กันเป็นอย่างดี มีความร่วมมือทั้งภายในเครือข่ายทันตบุคลากรทุกระดับ และการทำงานร่วมกับวิชาชีพอื่นๆได้เป็นอย่างดีเยี่ยม จนสามารถผลักดันให้เกิดนโยบายที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดีแก่ผู้ต้องขังในหลายประเด็น เช่น การมีนโยบายเรือนจำสีขาว ยกเลิกการขายบุหรี่ ในเรือนจำ การจัดการเรื่องลดหวานมันเค็มในอาหาร และการเพิ่มจำนวนอ่างล้างมือ แปรงฟัน
ประเด็นที่เป็น ข้อจำกัด ของการดำเนินงาน ที่เป็นจุดร่วมสะท้อนปัญหา หรือความเสี่ยงต่อความไม่สำเร็จของงาน คือ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 : COVID-19) ซึ่งเป็นข้อจำกัดในการให้บริการทันตกรรม และ ข้อจำกัดของสถานที่ และวิถีชีวิต สภาพสังคม ของผู้ต้องขัง รวมถึงการจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อมีการสุขภาพช่องปากที่ดี เช่น อาหาร กิจกรรมวัตรประจำวัน ล้วนส่งผลถึงสุขภาพช่องปาก และคุณภาพชีวิต
การเสนอให้มีการจัดสรร ยูนิตทำฟัน ในเรือนจำ จะเป็นการเอื้อประโยชน์ในผู้ต้องขังเข้าถึงบริการได้มากขึ้น ร่วมกับการจัดระบบบริการทันตกรรมในรูปแบบอื่นๆเพิ่มเติม ผ่าน Tele Dentistry โดยใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารด้วยกล้อง Stomatoscope จะช่วยเอื้อให้ทันตแพทย์สามารถดูแล สั่งการรักษา การส่งต่อ ได้สะดวกขึ้น และ ควรมีการประเมินกลุ่มผู้ต้องขัง ว่ามีกลุ่มย่อยอะไรบ้าง (social assessment) เพื่อให้เข้าใจบริบท ที่แตกต่างกัน เนื่องจาก แต่ละกลุ่มมีการจัดการที่ต่างกัน จึงน่าจะเป็นจุดเริ่มต้น ในการวิเคราะห์ปัญหา วางแผนการทำงานร่วมกัน อันจะนำมาซึ่งการจัดการที่เหมาะสม และสอดคล้องกับปัญหาที่แท้จริง
