
อัพเดททุกสาระ ข่าวสารเพื่อสุขภาพ มั่นใจไม่ตกเทรนด์
นายแพทย์สิทธิพงษ์ ยิ้มสวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช มอบหมายให้ ดร.ชัยณรงค์ แก้วจำนงค์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาวิชาการศูนย์อนามัยที่ 11 เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านจัดทำแผนเชิงกลยุทธ์สุขภาพและพัฒนาความเป็นเลิศระบบงานวิชาการ กรมอนามัย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยสำนักคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ระหว่างวันที่ 16 - 18 กุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ท อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ข้อมูล การวางแผนเชิงกลยุทธ์ เทคนิคการทำแผน การคัดเลือกและเชื่อมโยงแผนกลยุทธ์สู่แผนปฏิบัติการความเป็นเลิศทางวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมระดับพื้นที่
& สื่อมัลติมีเดีย
ไวรัส hMPV (Human metapneumovirus) หรือ ฮิวแมน เมตานิวโมไวรัส เป็นไวรัสก่อโรคระบบทางเดินหายใจที่มีมานานแล้ว ไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อโควิด 19 สามารถพบผู้ป่วยได้ประปรายตลอดทั้งปี มักพบผู้ป่วยในช่วงฤดูฝนและเพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจมีแนวโน้มแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น hMPV เป็นเชื้อชนิดอาร์เอ็นเอสายเดี่ยว (single-stranded RNA virus) แพร่กระจายผ่านละอองฝอยจากการไอ หรือจาม การสัมผัสใกล้ชิด หรือ การสัมผัสพื้นผิวหรือวัตถุที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสและนำมือมาสัมผัสเยื่อบุ เช่น เยื่อบุปาก จมูก หรือตา กลุ่มเสี่ยง คือ กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง เช่น โรคหอบหืด หรือ โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรังโดยทั่วไปผู้ติดเชื้อจะมีอาการคล้ายกับการติดเชื้อไวรัส RSV และไข้หวัด เช่น มีไข้ ไอ และคัดจมูก บางรายอาจพบภาวะปอดอักเสบ หรือกระตุ้นให้มีอาการ หอบหืดกำเริบเฉียบพลันได้ ปัจจุบันยังไม่มี ยาต้านไวรัสสำหรับโรคนี้ การป้องกันการติดเชื้อ ด้วยการ 1) ล้างมืออย่างสม่ำเสมอด้วยน้ำและสบู่อย่างน้อย 20 วินาที หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทดแทน 2) หลีกเลี่ยงการนำมือสัมผัสใบหน้า ตา จมูก 3) สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในพื้นที่แออัด 4) หากมีอาการป่วยให้หยุดพักที่บ้านเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ
เคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำให้สุขภาพดีที่ใครๆ ก็ทำได้ 1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ กินอาหารที่มีประโยชน์ให้มากขึ้น เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ผักสีสด ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน 2. ดื่มน้ำให้มาก ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เริ่มจากวางแก้วน้ำไว้ใกล้ๆ มือขณะทำงาน หรือพกขวดน้ำติดตัวให้เป็นนิสัยจะได้หยิบดื่มง่ายๆ 3. พักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน เริ่มง่ายๆ ด้วยการปรับการนอน ไม่นอนดึกเกินไป 4. ออกกำลังกายให้มากขึ้น ควรเริ่มจากออกกำลังกายเบาๆ อย่างน้อยซักวันละ 30 นาที ตามความถนัด เช่น การเดิน วิ่งเหยาะๆ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิก 5. ตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อตรวจคัดกรอง ค้นหาโรคที่อาจแฝงอยู่ในร่างกาย หรือตรวจเพื่อหาปัจจัยเสี่ยง รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ช่วยให้รับมือกับโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
ดาวน์โหลดอินโฟกราฟิกนี้ | 1 ภาพ |
น้ำกัดเท้า โรคที่มากับน้ำท่วม น้ำกัดเท้า หมายถึง ภาวะที่ผิวหนังบริเวณเท้าเปื่อยลอก มักเกิดจากการแช่ในน้ำเป็นเวลานาน อาการโรคน้ำกัดเท้า แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ระยะแรก ระคายเคือง มีอาการเท้าเปื่อย คัน แสบ ลอก เป็นระยะที่เป็นมาไม่นาน ไม่มีการติดเชื้อใดๆ ระยะติดเชื้อแบคทีเรีย มีอาการผื่นบวมแดง มีหนอง ปวด มีรอยแผลเปื่อยที่ผิวหนัง ควรล้างด้วยน้ำเกลือหรือด่างทับทิม ทาแผลด้วยยาฆ่าเชื้อ วันละ 2 – 3 ครั้ง กรณีติดเชื้อรุนแรง หรือในผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำควรไปพบแพทย์ ระยะติดเชื้อรา ผิวหนังเป็นผื่น เปื่อยยุ่ย ลอกเป็นขุยขาว แสบคัน มีกลิ่นเหม็น เป็นมานานกว่า 2 สัปดาห์ ควรรักษาโดยใช้ยา ฆ่าเชื้อรา ทาบางๆ วันละ 2-3 ครั้ง ข้อควรปฏิบัติ - หลีกเลี่ยงการแช่เท้าในน้ำนานๆ – ล้างเท้าด้วยสบู่และน้ำสะอาด หลังลุยน้ำและเช็ดเท้าให้แห้ง - ใส่ถุงเท้า รองเท้า ที่สะอาดไม่เปียกชื้น – ไม่ใช้ถุงเท้า รองเท้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น – หาก มีบาดแผลควรทำแผลและทายาฆ่าเชื้อโรค เช่น เบตาดีน (Betadine)
ดาวน์โหลดอินโฟกราฟิกนี้ | 1 ภาพ |
อันตรายภัยที่มากับน้ำท่วม ประชาชนควรระมัดระวังภัยสุขภาพที่อาจทำให้เกิดอันตรายและได้รับบาดเจ็บได้ การป้องกันไฟฟ้าดูด และสัตว์มีพิษกัดต่อย 1.สับคัทเอาท์เพื่อตัดกระแสไฟ 2.ย้ายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และปลั๊กไฟขึ้นที่สูง 3.ไม่ควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าขณะร่างกายเปียกหรือยืนแช่น้ำอยู่ 4.หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำเข้าใกล้ปลั๊กไฟ สายไฟ เสาไฟ หากเกิดไฟฟ้ารั่ว จะมีกระแสไฟกระจายเป็นวงกว้างไม่ต่ำกว่า 3 เมตร อาจทำให้ถูกไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตได้ ข้อแนะนำการป้องกันสัตว์มีพิษกัดต่อย เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง ที่อาจหนีน้ำมาหลบซ่อนอาศัยอยู่ตามบ้านและมุมมืดต่างๆ คือ 1.สอดส่องและสังเกตมุมอับของบ้านเป็นประจำ 2.สำรวจเสื้อผ้าและรองเท้าก่อนสวมใส่ทุกครั้ง 3.หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ ควรแต่งตัวให้มิดชิด และสวมรองเท้าบูททุกครั้ง
ดาวน์โหลดอินโฟกราฟิกนี้ | 1 ภาพ |
อันตรายที่มากับน้ำท่วม ประชาชนควรระมัดระวังภัยสุขภาพที่อาจทำให้เกิดอันตรายและได้รับบาดเจ็บ เช่น การจมน้ำ ป้องกันการจมน้ำในช่วงน้ำท่วม ข้อห้าม 1.ห้ามหาปลาในช่วงน้ำไหลหลาก 2.ห้ามดื่มสุราแล้วลงเล่นน้ำ เนื่องจากจะเสี่ยงเกิดตะคริว หากเมาสุรา จะทำให้เสียการทรงตัว และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ 3.ห้ามเดินผ่านหรือขับรถฝ่ากระแสน้ำท่วม เพราะระดับน้ำเพียง 6 นิ้ว จะทำให้รถเสียหลักและล้มได้ 4.ห้ามเด็กเล็กลงเล่นน้ำ อาจพลัดตกหรือถูกน้ำพัดได้ ข้อควรปฏิบัติ 1.อพยพไปยังพื้นที่สูง ให้รีบออกจากพื้นที่ในกรณีเกิดน้ำท่วม 2.สวมเสื้อชูชีพ หรือนำอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ติดตัวไปด้วย เช่น ถังแกลลอนพลาสติกเปล่าปิดฝาและผูกเชือก 3.เดินทางเป็นกลุ่ม เพื่อช่วยเหลือกันเวลาฉุกเฉิน 4.ติดตามข้อมูลข่าวสาร สภาพอากาศตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
ดาวน์โหลดอินโฟกราฟิกนี้ | 1 ภาพ |
วันที่ 21 – 27 พฤศจิกายน 2567 “สัปดาห์ทำความสะอาดแห่งชาติ” ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ด้วยการทำความสะอาดที่อยู่อาศัย ชุมชน สถานประกอบการ รวมถึงช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมตามสถานที่สาธารณะ
ดาวน์โหลดอินโฟกราฟิกนี้ | 1 ภาพ |