กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
งานทันตสาธารณสุข ศูนย์อนามัยที่ 11 เข้าร่วมการประชุม เชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแนวทางการดำเนินงานทันตสุขภาพ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ซึ่งจัดโดย สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย โดย มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการแผนงานแนวทาง
การดำเนินงานทันตสาธารณสุขระหว่างส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ภายใต้วิถีชีวิตใหม่ (new normal) และแลกเปลี่ยนแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปาก ในระหว่างวันที่ 14-15 ตุลาคม 2564 เวลา 9.00-16.30 น. ณ ห้องประชุมกำธร สุวรรณกิจ อาคาร 1 ชั้น 1 กรมอนามัย และห้องประชุมสำนักทันตสาธารณสุข อาคาร 5 ขั้น 3 กรมอนามัย และการประชุมทางไกล Video Conference ด้วยโปรแกรม Webex Meetings โดย นพ. สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานเปิดการประชุม และ มีทันตบุคลากรทั้งจาก สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ศูนย์อนามัย ที่ 1-12 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทุกจังหวัด โรงพยาบาลทุกระดับ และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล ทั่วทั้งประเทศ เข้าร่วมการประชุม จำนวน 400 user
รูปแบบการประชุม เป็นการบรรยาย แนวทางการดำเนินงานทันตสาธารณสุขในกลุ่มวัยต่างๆ รวมถึง แนวทางการทำงานทันตสาธารณสุข ในราชทัณฑ์ แนวทางการดำเนินงานทันตสาธารณสุข ด้านปัจจัยเสี่ยงและการจัดการสิ่งแวดล้อม จาก สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย และ การบรรยาย และ อภิปราย การจัดบริการตามชุดสิทธิประโยชน์ทันตกรรมในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ โดย นายแพทย์จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ เภสัชกรคณิตศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผู้อำนวยการ กลุ่มภารกิจสนับสนุนการเข้าถึงบริการปฐมภูมิและการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งประเด็นที่เปลี่ยนแปลงในปีงบประมาณ 2565 คือ รูปแบบการเบิกจ่าย Fee schedule ในงานบริการทันตกรรม มีเฉพาะในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งยังคงการจ่ายในอัตรา 500 บาท ต่อ ราย แต่มีการปรับเปลี่ยนวิธีการจ่าย โดยสามารถแยกจ่ายตามกิจกรรม คือ การตรวจช่องปาก 200 บาท/ราย และการขูดทำความสะอาดฟัน 300 บาท/ราย แต่จะต้องมีการยืนยันตัวตน ผ่าน Smart Card ทุกราย ส่วน รูปแบบการเบิกจ่าย งานบริการทันตกรรม เคลือบฟลูออไรด์ ในกลุ่มอายุ 4-12 ปี และ การเคลือบผนึกหลุมร่องฟัน ในกลุ่มอายุ 6-12 ปี จะจ่ายในรูปแบบรายเหมา โดยกำหนดค่าเป้าหมาย เคลือบฟลูออไรด์ ในกลุ่มอายุ 4-12 ปี ร้อยละ 40 และ การเคลือบผนึกหลุมร่องฟัน ในกลุ่มอายุ 6-12 ปี ร้อยละ 20 โดยให้หน่วยบริการจัดทำแผนปฏิบัติงานส่งให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในแต่ละเขตสุขภาพ โดยให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในแต่ละเขต ร่วมกับกลไก Service plan สาขาสุขภาพช่องปาก และกลไกระดับจังหวัด/เขต คือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ศูนย์อนามัย วางแผนการขับเคลื่อน กำหนดเป้าหมายรายจังหวัด และหน่วยบริการ ชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน และกำหนดรูปแบบการกำกับ ติดตาม ต่อไป
