งานทันตสาธารณสุข ศูนย์อนามัยที่ 11 ร่วมตรวจราชการและนิเทศงานในโครงการเกี่ยวกับพระราชวงศ์ หัวข้อโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ของจังหวัดระนอง

งานทันตสาธารณสุข ศูนย์อนามัยที่ 11 ร่วมกับผู้นิเทศงานตรวจราชการจากศูนย์ควบคุมโรคที่ 11 กรมควบคุมโรค ศูนย์สุขภาพจิตที่ 11 กรมสุขภาพจิต กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบริหารสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตรวจราชการและนิเทศงานในโครงการเกี่ยวกับพระราชวงศ์ หัวข้อโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ของจังหวัดระนอง ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 โดยมีผู้รับผิดชอบงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ของจังหวัดระนอง ร่วมรับการนิเทศ ผ่านระบบ VDO Conference โปรแกรม Microsoft Teams จำนวน 10 user
(โดยตรวจราชการเฉพาะทีมทันตบุคลากรก่อนในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565)

มีประเด็นการตรวจราชการ ใน 4 ประเด็นหลัก คือ
1. การพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำ (กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และกองบริหารการสาธารณสุข สป.)
2. การบริการสุขภาพช่องปาก (กรมอนามัย)
3. การบริการสุขภาพจิต (กรมสุขภาพจิต)
4. การป้องกันและควบคุมโรค (กรมควบคุมโรค)

คณะกรรมการ-คณะทำงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จังหวัดระนอง
มีการบูรณาการจัดทำแผนงาน และจัดกิจรรมอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนการดำเนินงานกันเป็นอย่างดี ทำให้การตรวจคัดกรองสุขภาพช่องปาก และจัดบริการทันตกรรมมีผลงานเกินเป้าหมายอย่างมาก โดยผู้ต้องขังได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพช่องปาก สูงถึง ร้อยละ 83.10 (เป้าหมาย 60 %) ผู้ต้องขังได้รับบริการทันตกรรมอย่างน้อย 1 ครั้ง/ปี ร้อยละ 83.28 (เป้าหมาย 30 %) แม้จะมี สถานการณ์ การแพร่ระบาด ของเชื้อ COVID-19 เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ แต่ยังคงสามารถ ประสาน และบริหารจัดการให้งานบรรลุ และเกินค่าเป้าหมายอย่างมาก นอกจากการจัดบริการรักษาทันตกรรมแล้วยังดำเนินการ ทั้งการส่งเสริม ป้องกัน ควบคู่ไปด้วย โดยมีกิจกรรมการฝึกอบรมการตรวจช่องปากด้วยตนเอง การฝึกทักษะการแปรงฟัน นอกจากนี้ ยังได้เสนอ ให้ผู้ต้องขังมีโอกาสแปรงฟันก่อนนอนอีกด้วย
นอกจากการจัดบริการทันตกรรมแล้ว การบันทึกข้อมูลในระบบรายงานมาตรฐานก็ยัง ถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา เป็นตัวอย่างที่ดี
เนื่องจากทีมทันตบุคลากรมีความพร้อม และมีการจัดทำแผนงานบริการทันตกรรมในเรือนจำอย่างสม่ำเสมอ และในเรือนจำก็มีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอในการจัดตั้งยูนิตทันตกรรม ดังนั้น หากสามารถหาแหล่งงบประมาณ จากภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน หรือภาคประชาชน ลงทุน จัดตั้งคลินิกทันตกรรม พร้อมระบบระบายอากาศ และยูนิตทันตกรรม ในเรือนจำ จะทำให้ผู้ต้องขังเข้าถึงบริการทันตกรรมตามหลักมนุษยธรรมมากขึ้น