กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
งานทันตสาธารณสุข ศูนย์อนามัยที่ 11 เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงาน
การจัดบริการรากฟันเทียมรองรับฟันเทียม ภายใต้โครงการฟันเที่ยม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ครั้งที่ 2
จัดโดยสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดรูปแบบการจัดบริการรากฟันเทียมเพื่อรองรับฟันเทียมทั้งปาก และการบริหารจัดการในระดับจังหวัด และเขตสุขภาพ ในวันที่ 16 มิถุนายน 2566 เวลา 13.00 – 16.30 น. ผ่านระบU Video Conference โดยมีผู้แทนเขตสุขภาพ จังหวัด และหน่วยบริการฝังรากเทียมจากทั่วประเทศ เข้าร่วมการประชุม จำนวน 200 User
ทพญ.วรางคณา เวชวิธี ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย รายงานสถานการณ์ผลการดำเนินงานฝังรากฟันเทียม และ ผู้แทนหน่วยบริการฝังรากเทียมร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานฝังรากเทียมของหน่วยบริการที่มีผลการดำเนินงานสูง ได้แก่ โรงพยาบาลแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ และ โรงพยาบาลเกาะสมุย โรงพยาบาลเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
จุดเด่นของ โรงพยาบาลแม่วงก์ คือ มีประสบการณ์ฝังรากเทียมมาหลายรุ่น และมีผู้สูงอายุได้รับการฝังรากเทียมมาในโครงการที่ผ่านมาจำนวนมาก และใช้งานได้ดี ทำให้ผู้สูงอายุไม่กังวลกับการทำหัตถการ รวมทั้งทันตแพทย์มีทักษะความชำนาญในการฝังรากเทียม และ มีเทคนิคการสื่อสารกับผู้รับบริการให้เข้าใจง่าย
จุดเด่นจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีการถ่ายทอดนโยบายสู่การปฏิบัติที่รวดเร็ว การจัดการที่เป็นระบบ และได้รับการประสานความร่วมมือจากคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการลงพื้นที่ให้บริการหน่วยทันตกรรมพระราชทาน และฝังรากฟันเทียมในพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลเกาะสมุย และ โรงพยาบาลเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีการประสานเตรียมการ เตรียมชุดอุปกรณ์ในการผ่าตัด และที่สำคัญมีการทำ MOU ร่วมกับหน่วยบริการเอกชน ในการใช้ CBCT และ OPG ซึ่งเป็นครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มีราคาสูง เพื่อการวินิจฉัย และวางแผนก่อนการผ่าตัด และติดตามผู้ป่วย ลดข้อจำกัดของความพร้อมของครุภัณฑ์ ในโรงพยาบาลชุมชนขนาดเล็กที่อยู่ในพื้นที่เกาะ ทำให้สามารถวางแผนและให้บริการได้ตามมาตรฐาน ยิ่งกว่านั้นยังมีการเตรียมการและมีกระบวนการค้นหาผู้รับบริการเชิงรุก เรียกผู้ที่เคยใส่ฟันเทียมทั้งหมดมาตรวจ ทำให้สามารถขึ้นทะเบียนและดำเนินการฝังรากเทียมในการออกหน่วยได้สูงถึง 50 ราย
นอกจากพื้นที่แลกเปลี่ยนกระบวนการทำงานแล้ว ยังมีการบรรยายกระบวนการเบิกจ่ายเงินผ่านระบบ E -Claim และการติดตามตรวจสอบการเบิกจ่าย โดยผู้แทนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
