กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
นิภาพร ศรีสมัย
ศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช
การวิจัยเชิงสำรวจครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มารับบริการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช กลุ่มตัวอย่างจำนวน 341 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีเฉพาะเจาะจง เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง แรงสนับสนุนทางสังคมที่ได้รับจากบุคคลในครอบครัวและบริการสาธารณสุข และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ใช้การวิเคราะห์ข้อการถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) และใช้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Cronbach’s alpha)
ผลการวิจัยพบว่า แรงสนับสนุนจากครอบครัว (β=0.11, t=3.03,p-value < 0.05) และแรงสนับสนุนจากบริการสาธารณสุข (β = 0.12, t = 2.82, p–value < 0.05) มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง แต่พบว่า ความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงของผู้ป่วยไม่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง (β = 0.14, t = 1.08, p–value = 0.280)
ข้อเสนอแนะจากการวิจัย การจัดบริการโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นคลินิกเฉพาะ แยกจากโรคทั่วไป เพื่อให้การจัดการด้านการดูแล การรักษารวมถึงการให้ความรู้ที่เหมาะสมและตรงกับปัญหาสุขภาพแบบรายบุคคลอย่างมีคุณภาพ
คำสำคัญ: ปัจจัย, พฤติกรรมสุขภาพ. ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง
ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มารับบริการใน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช |
ขนาดไฟล์ 4MB
ดาวน์โหลด 3 ครั้ง
|
ดาวน์โหลด
แจ้งไฟล์เสีย |