ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่ออาการผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อของพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช

เรื่อง  ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่ออาการผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อของพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช

วัตถุประสงค์การทำวิจัย

1. 1. เพื่อศึกษาความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อในกลุ่มพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช
2. เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อของพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช

ผลการศึกษา

             กลุ่มตัวอย่างจำนวน 47 คน พบความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อในตำแหน่งต่าง ๆ ของร่างกายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา จำนวน 44 คน(ร้อยละ 93.6) และความผิดปกติที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อการทำกิจวัตรประจำวันจำนวน 7 คน (ร้อยละ 15.9) ขณะที่ผลสำรวจในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มตัวอย่างจำนวน 41 คน(ร้อยละ 87.2) มีความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อในตำแหน่งต่าง ๆ ของร่างกาย และความผิดปกติที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อการทำกิจวัตรประจำวันจำนวน 10 คน (ร้อยละ 24.3) โดยตำแหน่งที่พบความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อในช่วง 7 วันที่ผ่านมาของกลุ่มตัวอย่างมากที่สุด 3 ตำแหน่งแรก ได้แก่ ไหล่ (ร้อยละ 66.0) หลังส่วนบน (ร้อยละ 59.6) และ คอ (ร้อยละ 48.9) ตามลำดับ และในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมากลุ่มตัวอย่างพบความผิดปกติมากที่สุด 3 ตำแหน่งแรก ได้แก่ ไหล่ (ร้อยละ 68.1) หลังส่วนบน (ร้อยละ 53.2) และคอ (ร้อยละ 51.1) ตามลำดับ

                    ผลศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยหลัก 3 ประการ ได้แก่ ปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยด้านการปฏิบัติงาน และปัจจัยด้านการยศาสตร์ต่อความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อของกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงาน ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช จำนวน 47 คน ในช่วงเวลา 7 วันและ 12 เดือนที่ผ่านมา โดยพบว่า การโน้มลำตัวมาด้านหน้าหรือเอนไปด้านหลังมีความสัมพันธ์ต่อความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้ออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา และการนั่งทำงานในท่าทางเดิมโดยไม่มีพนักพิงหลังมีความสัมพันธ์ต่อความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้ออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป

     ผลการวิจัยพบว่าพยาบาลที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 11                      นครศรีธรรมราช มีความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อที่เกิดจากปัจจัยด้านการยศาสตร์ ดังนั้นควรมีการใช้เครื่องมือมาตรฐานในการเก็บข้อมูลเชิงลึกเพื่อศึกษาหาปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาเหล่านี้