พัฒนารูปแบบการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพของประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 11

                       การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง แบบกลุ่มเดียว วัดผลก่อนและหลังการทดลอง   มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์ความรอบรู้ด้านสุขภาพของประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้น ไปในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 11 และ เพื่อพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพของประชากรไทย อายุ 15 ปี ขึ้นไป ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 11 ด้วยการประยุกต์ใช้กลวิธี Ask Me 3 ร่วมกับ Teach-back Technique โดยมีรูปแบบการวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 การสำรวจข้อมูลความรอบรู้ด้านสุขภาพของประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ในพื้นที่เขตสุขภาพที่11 สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Random Sampling) ซึ่งเป็นแผนการเลือกตัวอย่างแบบใช้ความน่าจะเป็น(Probability Sampling) ใน 3 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช  พังงา และชุมพร  จำนวน 1,169 คน ผลการสำรวจพบว่าประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 11 มีความรอบรู้ด้านสุขภาพไม่เพียงพอ ร้อยละ 18.00 กลุ่มตัวอย่างที่เป็นโรคเรื้อรัง จำนวน 506 คน มีระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพไม่เพียงพอ  ร้อยละ 39.44 ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพของประชาชนไทย อายุ 15 ปี ขึ้นไป กลุ่มตัวอย่างคือประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ในพื้นที่ หมู่ที่ 10 บ้านบางเนียน ตำบลคลองน้อย อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 34 คน ระยะเวลา 16 สัปดาห์  ในสัปดาห์ที่ 1 จัดกิจกรรมเพื่อให้กลุ่มตัวอย่างและกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ มีความเข้าใจเนื้อหาให้ตรงตามวัตถุประสงค์การศึกษา ในสัปดาห์ที่ 5 และ 10 ผู้วิจัยติดตามกระตุ้นเตือนกลุ่มทดลองที่บ้าน ผลการศึกษาพบว่าภายหลังได้รับกิจกรรมตามรูปแบบการสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพกลุ่มตัวอย่างมีความรอบรู้ด้านสุขภาพเพียงพอในมิติทักษะความรอบรู้ด้านสุขภาพ เพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 8.8 เป็น ร้อยละ 79.4 และ มิติระบบสุขภาพ เพิ่มขึ้น จากร้อยละ 44.1 เป็น ร้อยละ 76.5 และเมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างค่าคะแนนเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงแบมาตรฐาน ของความรอบรู้ด้านสุขภาพของกลุ่มตัวอย่างก่อนและหลังการศึกษา ทำการทดลองทางสถิติพบว่า คะแนนเฉลี่ยความรอบรู้ด้านสุขภาพในในมิติทักษะความรอบรู้ด้านสุขภาพและมิติระบบสุขภาพ สูงกว่าก่อนการศึกษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

คำสำคัญ :  ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, รูปแบบการสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ